ใครกำลังจะจัดฟันขอให้ยกมือขึ้น สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังจะจัดฟัน วันนี้เซนิโทนี่มาแนะนำขั้นก่อนการเตรียมความพร้อมก่อนการจัดฟันมาให้เพื่อน ๆ ได้ศึกษากันด้วยค่ะ เพราะการจัดฟันไม่ใช่แค่เดินเข้าคลินิกแล้วจะทำได้เลย จะมีขั้นตอนอย่างไรบ้างนั้น มาดูกันเลยค่ะ
-
ปรึกษาและประเมินการรักษา
ก่อนการจัดฟ้นจะต้องเข้าพบทันตแพทย์ เพื่อให้คุณหมอตรวจดูลักษณะของฟันที่มีปัญหา วางแผนและประเมินวิธีการรักษา รวมไปถึงรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นเมื่อทำการรักษาค่ะ
2. พิมพ์ฟัน, เอกซเรย์ และถ่ายภาพ
เมื่อเพื่อน ๆ ตัดสินใจแล้วว่าจะทำการจัดฟัน คุณหมอก็จะทำการพิมพ์ฟันเเพื่อทำแบบจำลองของฟันเรา เพื่อดูการเรียงตัวของฟันได้อย่างถูกต้องและชัดเจนมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ การเอกซเรย์ สำหรับการจัดฟัน จะทำเพื่อดูลักษณะของฟัน กระดูกขากรรไกร กะโหลกศีรษะและใบหน้า ใช้ร่วมกับแบบจำลองฟันเพื่อให้สามารถวางแผนการรักษาได้ดียิ่งขึ้น และสุดท้ายการถ่ายภาพ คุณหมอจะทำการถ่ายภาพ หน้าตรง หันข้าง และภายในช่องปากของเรา เพื่อบันทึกทึกการรักษาก่อน - หลังค่ะ
3. เคลียร์ช่องปาก
ขั้นตอนนี้จะเป็นการเตรียมความพร้อมช่องปากอย่างแท้จริงและจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลนะคะ หลังจากคุณหมอวางแผนการรักษาเสร็จเรียบร้อย คุณหมอจะแจ้งว่าต้องถอนฟัน อุดฟันกี่ซี่ หรือต้องผ่าฟันคุดหรือไม่ และค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไม่ได้รวมอยู่ในค่าจัดฟันนะคะ
4. ติดเครื่องมือ
เมื่อเคลียร์ช่องปากเสร็จแล้ว คุณหมอก็จะทำการติดเครื่องมือให้เพื่อน ๆ แล้วค่ะ หลังจากนี้จะต้องมาพบคุณหมอทุกเดือนเพื่อปรับตำแหน่ง และอาจมีการเพิ่มเครื่องมือบางตัว ตามการพิจารณาของคุณหมอนะคะ
5. ถอดเครื่องมือ
วันที่รอคอยของมนุษย์จัดฟันทุกเลยก็ว่าได้ เมื่อฟันของเราเรียงตัวสวยงามจนเป็นที่พึงพอใจของคุณหมอแล้วก็ได้เวลาถอดเครื่องมือ และคุณหมอจะทำการพิมพ์ฟันของเราอีกครั้งเพื่อทำรีเทนเนอร์นั่นเองค่ะ
6. ใส่รีเทนเนอร์
รีเทนเนอร์เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้เลยสำหรับคนจัดฟัน ถึงแม้ว่าจะถอดเครื่องมือแล้ว แต่ก็ต้องใส่รีเทนเนอร์เพื่อคงสภาพฟันเอาไว้นะคะ ถ้าไม่อยากเสียเงิน และเสียเวลาจัดฟันรอบสอง เซนิโทนี่เตือนแล้วนะ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
ฟันผุแล้ว ทำยังไงดีนะ ?? EP2
เรายังคงอยู่กับหัวข้อเกี่ยวกับการฟันผุกันค่ะ ต่อเนื่องจากคราวที่แล้วเราได้รู้แล้วว่าฟันผุมีกี่ระยะ และในแต่ระยะก็จะมีวิธีการรักษาที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นการอุดฟัน หรือรักษารากฟัน วันนี้เซนิโทนี่จะมาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้กันว่าแต่ละวิธีนั้นเป็นยังไง จะได้เตรียมตัว เตรียมใจ ให้พร้อมรับการรักษากันค่ะ